วิเคราะห์จุดอ่อนของทีมชาติเยอรมนีใน ศึกฟุตบอลโลก 2018

โดยปรกติแล้วทีมชาติเยอรมนีถือเป็นหนึ่งในทีมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและพวกเขามักจะทำผลงานได้ดีในศึกฟุตบอลโลกในทุกครั้ง นอกจากนี้ พวกเค้ามีสถิติในฟุตบอลโลกที่เยี่ยมยอดมาโดยตลอด โดยพวกเขานั้น ไม่เคยที่จะตกเพราะแรกของฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ อีกทั้งในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา พวกเขาทำผลงาน อย่างน้อยทะลุเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศของทุกๆทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่เพิ่งผ่านไปล่าสุดพวกเขาไม่สามารถที่จะทำผลงาน รักษามาตรฐานของตัวเองได้ จนเป็นเหตุให้ต้องตกรอบฟุตบอลโลกตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มไปอย่างน่าเสียดาย

ในวันนี้ เรามาวิเคราะห์จุดอ่อนของพลพรรคอินทรีเหล็ก ว่าทำไมพวกเขาถึงพลาดท่าตกรอบแรกของฟุตบอลโลกไปแบบช็อกสายตาคนทั้งโลก

การดันขึ้นสูงจนเกินไป

ในช่วงหลังนั้นทีมชาติเยอรมนี เน้นการบุกแบบครองบอลเป็นหลัก และอาศัยการส่งบอลไปมาระหว่างเท้าสู่เท้า โดยที่กองหลังทั้งสองข้างนั้นจะดังขึ้นมาสูง ตลอดเวลาเพื่อช่วยทำเกมรุกให้ทีม

การดันขึ้นสูงของกองหลังทั้งสองข้างนั้น ทำให้เกิดช่องว่างในแผงหลัง และง่ายต่อคู่ต่อสู้ ที่จะทำเกมสวนกลับเร็ว ซึ่งเราได้เห็นในทั้ง 3 เกมที่พวกเขาพบกับทีมชาติเม็กซิโก ทีมชาติสวีเดนและทีมชาติเกาหลีใต้

ไม่มีกองหน้าธรรมชาติแบบ มิโรสลาฟ โคลเซ่

ถึงแม้พวกเขาจะมีกองหน้าคุณภาพแบบ ทิโม แวร์เนอร์ และ มาริโอ โกเมซ แต่หากจะเทียบกับตำนานระดับ โคลเซ่ นั้น ถือว่ายังคงชั้นกันอยู่พอสมควร ซึ่ง โคลเซ่ นั้น มีทั้งความเร็ว เล่นลูกกลางอากาศได้ อีกทั้งยังหาช่องได้ดีอีกด้วย ซึ่งนี้น่าจะเป็นโจทย์ให้กับทีมชาติเยอรมันนี้ให้พวกเขาตามหากองหน้าที่มีมิติ เหมือนกับตำนานรายนี้

ใช้ประโยชน์จากลูกกลางอากาศได้ไม่ดีพอ

ทีมชาติเยอรมนีชุดนี้ ถือว่ามีความมั่นใจในการส่งบอล จากเท้าสู่เท้า ค่อนข้างมาก และพวกเขามักที่จะพยายามเจาะคู่ต่อสู้ด้วยบอลเรียดพื้น และมักจะเลี้ยงการโยนบอล ทั้งๆที่พวกเขามีอยู่กองหน้าที่มีรูปร่างสูง ซึ่งหากพวกเขาเน้นลูกกลางอากาศลูกตั้งเตะมากกว่านี้ ก็อาจจะเป็นผลดี และอาจทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปได้ด้วยซ้ำ