โค้ชทีมชาติเบลเยี่ยมแก้ปัญหาระหว่าง อาซาร์ กับ เดอ บรอยน์ ได้อย่างไร ?

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือสัญชาติสเปนิชได้รับการต่อสัญญาจากทางทีมชาติเบลเยี่ยมนอกจากฝีไม้ลายมือการคุมทีมที่ดีแล้วเจ้าตัวยังมีทักษะในการเกลี้ยกล่อม 2 ซูเปอร์สตาร์อย่าง อีเด็น อาซาร์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ให้เข้ารับหน้าที่ฟาดแข้งอีกด้วย

โรแบร์โต้ มาติเนซ เพิ่งได้รับการต่อสัญญาจากทางทีมชาติเบลเยี่ยม และนั่นทำให้เขาได้สิทธิ์นักแท่นกุนซือปิศาจแดงแห่งยุโรปอย่างน้อยอีก 2 ปี และเขาจะได้ทำหน้าที่พาทีมชาติเบลเยี่ยมเข้าสู้ศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียในช่วงซัมเมอร์นี้ และนอกจากนี้เขายังต้องพาทีมชาติเบลเยี่ยมสู้ศึกอื่น ๆ อย่าง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และการแข่งขันฟุตบอลยูโร รอบคัดเลือกปี 2020 อีกด้วย

นับเป็นยุคทองของทีมชาติเบลเยี่ยมที่มีทีมงานที่คุณภาพและพร้อมที่จะลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างยุครุ่งเรืองของทีมต่อไป โดยทีมงานนักเตะของพวกเขาก็อยู่ในช่วงที่กำลังฉายฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในทีมชาติและสโมสร

ผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติเบลเยี่ยมนั้นคือการไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ที่ประเทศบราซิล แต่ในตอนนั้นพวกเขาต้องพ่ายให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่าและตกรอบไปในที่สุด ซึ่งดูเหมือนกับว่าทีมชาติเบลเยี่ยมในตอนนั้นเหมือนขาดอะไรบางอย่าง ไร้ซึ่งพลังเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ในช่วงท้ายของการแข่งขันฟุตบอลยูโร ปี 2016 ที่พวกเขาต้องพบกับทีมชาติเวลส์ซึ่งน่าจะเป็นฝ่ายที่แพ้ไป เนื่องจากทีมชาติเวลส์นั้นแทบจะไม่มีนักเตะอะไรที่จะมาสู้ทีมชาติเบลเยี่ยมได้เลยนอกจาก แกเร็ธ เบล แค่เพียงคนเดียว แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ด้วยแทคติกและโครงสร้างของทีมทำให้ทางด้านของทีมชาติเวลส์ชนะไปในที่สุด

ทางถึงสถานการณ์ปัจจุบันโค้ช มาติเนซ นั้นไม่เพียงแต่มีทักษะในการคุมทีมที่ดีแล้วเขายังช่วยให้ทั้ง อาซาร์ และ เดอ บรอยน์ ยอมฟาดแข้งให้กับทีมชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยเหลือให้นักเตะทั้ง 2 คนมีการพัฒนาจนมีฟอร์มการเล่นที่ดีและทำให้ทั้งทาง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดของนักเตะดังกล่าวได้ผลประโยชน์ไปโดยปริยาย