เกมส์การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง บราซิล พบกับ เบลเยี่ยม โดยผลการแข่งขันในนัดนี้เป็นทางด้านของ เบลเยียม ที่ทำได้ดีกว่าเอาชนะ บราซิล ทีมแชมป์โลก 5 สมัยไป 2-1 โดยไฮไลท์สำคัญในเกมส์นี้ตกไปอยู่ที่การดวลกันของคู่นักเตะเพื่อนร่วมสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อย่าง เนย์มาร์ กองหน้าซุปเปอร์สตาร์ค่าตัแพง กับ โทมัส มูนิเยร์ แบ็คขวาจอมบุกชาว เบลเยียม ที่หลังจบเกมส์มีหลายฝ่ายออกมาชื่นชมการประกบตัวของ มูนิเยร์ ที่ทำได้ดีตลอดทั้งเกมส์จนทำให้ เนย์มาร์ ไม่สามารถแผลงฤทธิ์ช่วยทีมชาติ บราซิล ได้อย่างถนัดนั้นเอง
โดย มูนิเยร์ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ผมคาดหวังว่าจะเจอกับความยากลำบากมากขึ้นในการตามประกบ เนย์มาร์ ในเกมส์ที่ เบลเยียม เอาชนะ บราซิลไปได้ 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย”
โดยได้ประตูขึ้นนำของ เบลเยียม ในเกมส์นี้เกิดจากการทำเข้าประตูตัวเองของ แฟร์นันดินโญ กองกลางทีมชาติ บราซิล ตั้งแต่ในช่วงต้นเกมส์ในจังหวะลูกเตะมุมโดย นาเซอร์ ชาดลี่ และ เป็น แวงซ็องต์ กอมปานี ที่จัดการขึ้นโขกกลับหลังบอลไปแฉลบ แฟร์นันดินโญ่ เข้าประตูไปทำให้ เบลเยี่ยม ขึ้นไปก่อน 1-0 และ จากนั้น เบลเยียม ออกนำอีกรอบจากจากจังหวะโต้กลับเร็วโดยเป็น โรเมลู ลูกากู พาบอลขึ้นมาจนถึงบริเวณกลางสนาม และ จ่ายออกขวาไปให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ จัดการแต่งบอลเข้าขวาก่อนยิงเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษบอลหนีมือ อลิสสัน เสียบเสาไปอย่างสวยงามช่วยให้ เบลเยี่ยม ออกนำห่าง 2-0 หลังจากนั้น บราซิล มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เปิดบอลโด่งข้ามกองหลังเข้าไปถึง เรนาโต้ ออกุสโต ตัวสำรองได้โหม่งบอลเข้าไปไล่มา 2 – 1 แต่ไม่ทันจบเกมส์ บราซิล กระเด็นตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
สำหรับเกมส์นี้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มีการสลับเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ทำผลงานดีจากนัดที่ผ่านมาลงสนามอย่าง นาเซอร์ ชาดลี่, มารูน เฟลไลนี่ , โธมัส มูนิเยร์ ลงเป็นตัวจริงโดยในรายของ มูนิเยร์ ในเกมส์นี้เจ้าตัวรับหน้าที่ประจำการเป็นแบ็คขวาเป็นตำแหน่งที่จะต้องรับมือกับ เนย์มาร์ โดยตรง ทั้งนี้ มูนิเยร์ ก็ออกมากล่าวว่า เขาคิดว่าจะเจองานยากกว่านี้ในการดวลกับดาวเตะเพื่อนร่วมทีมค่าตัวแพงที่สุดในโลกรายนี้
มูนิเยร์ กล่าวว่า “ผมคาดหวังว่าผมคงจะได้รับความลำบากมากขึ้น แต่สุดท้ายเราก็ได้จัดการรวมกันเป็นอย่างดี”
“ผมได้รับความช่วยเหลือจาก มารูยาน เฟลไลนี่ และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ตลอดทั้งเกมส์ และ เราโฟกัสไปที่การหยุด เนย์มาร์ , คูตินโญ่ และ มาร์เซลโล่ และ เราก็ทำผลงานได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เราสามารถแสดงความยินดีให้กับตัวเองได้เลยสำหรับผลงานการเล่นเกมส์รับในวันนี้”
“แต่ในบทบาทของการทำเกมส์รุกของผมในเกมส์นี้มันอาจจะน่าผิดหวังไปหน่อย เพราะผมไม่ค่อยได้สัมผัสบอลมากเท่าที่ควร แน่นอนผมเสียสละตัวเองให้กับมากได้เสมอ และ ผมก็มีความสุข นั่นก็เพราะเราชนะนั้นเอง”
ผมจากการชนะ และ ผ่านเข้ารอบในนัดนี้จะทำให้ เบลเยียม ย้ายเข้าสู่รอบ 4 ทีมของฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986 โดยพวกเขาจะเข้าไปเจอกับ ฝรั่งเศส อดีตแชมป์โลกปี 1998 โดยในนัดหน้า มูนิเยร์ จไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบนั้นเอง